5 สิ่งที่ได้เผชิญและเรียนรู้ระหว่างการเก็บตัวอยู่บ้านช่วง Lockdown
หลังจากเก็บตัวไม่ออกจากบ้านมาสองสามเดือน เพราะ โควิด-19 และ Lockdown แวนจึงได้เริ่มมองเห็นและเรียนรู้ตัวเองในบางมุมที่อยากเอามาแชร์ และชวนคุณคุยว่าแต่ละคนเป็นอย่างไรกันบ้าง แต่อันที่จริงแล้ว แวนทำงานที่บ้านมาตลอดนะคะ คือ Work From Home มาหลายปีแล้ว ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องใหม่ แวนจัดโต๊ะทำงานไว้มากกว่า 3 มุมที่บ้าน เรียกได้ว่าอยู่ตรงไหนก็นั่งทำงานได้เกือบหมด แต่ที่เปลี่ยนแปลงไปคือ แทบไม่ได้ออกไปไหนเลย และไม่มีการออกไปประชุมหรือทำงานข้างนอกเลย รวมทั้งมีอีกหลายโปรเจ็คที่ถูกลูกค้าชะลอไป ∙ ชีวิตที่ช้าลง มีเวลาประณีตกับชีวิตมากขึ้น ได้จัดระเบียบสิ่งต่าง ๆ รอบตัว ทำสิ่งต่าง ๆ ช้าลง มีเวลาพินิจสิ่งรอบตัว ทำให้คิดได้ว่า ที่ผ่านมาเรารีบร้อนโดยบางครั้งไม่จำเป็น และชีวิตที่ช้าลงไม่ได้เลวร้าย ฝึกทำอะไรช้าลงบ้าง เป็นการเมตตาต่อตัวเอง ที่ไม่ต้องทุกข์ทรมานจากความเร่งรีบและกดดันเรื่องเวลาอยู่ตลอดเวลา ∙ ใช้สอยเวลาอย่างฟุ่มเฟือย ด้วยความที่รู้สึกว่าเรามีเวลาเยอะขึ้น ทำให้เถลไถลไปทำสิ่งที่อยู่นอกเหนือจากสิ่งที่ควรทำไปนาน เผลอไผลไปกับการกดรีโมท ดูหนังจบเรื่องหนึ่งต่ออีกเรื่องจนดึกดื่น นั่งไถฟีดหน้าจอไปเรื่อยเปื่อยอย่างไร้จุดหมายเป็นเวลานาน ๆ เมื่อความกดดันบางอย่างหายไป อาจทำให้เราหลงลืมเป้าหมายสำคัญในชีวิตเราไปบ้าง ∙ แหกกรอบความเชื่อเดิม เพิ่มทักษะใหม่แบบตกกระไดพลอยโจน ทำอาหารรับประทานเอง ทั้งที่ก่อนหน้านี้เชื่อมาตลอดว่าเป็นเรื่องยุ่งยาก เสียเวลา และเหนื่อยเปล่า แต่พอได้มาลงมือทำจริง ๆ กลับทำให้ตระหนักได้ว่า มันไม่ได้ยากและยุ่งอย่างที่คิด แถมยังได้อาหารที่คุณภาพตามที่อยากจะได้อีก เรื่องนี้ขยายผลต่อการท้าทายกรอบความเชื่อเดิมของตัวเองในเรื่องอื่นต่อไปได้ ทำให้ได้เรียนรู้ว่าการออกจาก comfort zone บางครั้งก็ไม่ได้ลำบากอย่างที่คิด ∙ ความเครียดเพิ่มปริมาณ จากการรับข่าวสาร พร้อมการเปลี่ยนแปลงรอบตัว จุดประกายให้เพิ่มความเครียดและวิตกกังวลขึ้นมาในระดับที่สังเกตได้ แม้จะพยายามผ่อนคลาย แต่ความหวั่นวิตกต่อธุรกิจ ต่ออนาคตยังคงมี แต่ในอีกด้านหนึ่ง สิ่งนี้ก็ช่วยให้สมองได้ทำงาน กระตุ้นให้มองหาโอกาส และทางออกที่สร้างสรรค์ ถึงแม้จะเป็นความเครียด แต่ก็แฝงมากับความรู้สึกท้าทายและตื่นเต้นด้วยเช่นกัน ทำให้ได้เรียนรู้ว่าการจัดการให้ความเครียดอยู่ในระดับที่ไม่สูงเกินไปนั้นเป็นเรื่องสำคัญ ∙ เฝ้ามองการเปลี่ยนแปลงรอบตัว จากสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นมีผลกระทบต่อกับทุกคน พวกเราถูกบังคับเปลี่ยนวิถีชีวิตแบบจำยอม การเปลี่ยนแปลงบีบบังคับให้ทุกอย่างต้องปรับให้อยู่รอด การติดตามข่าวสาร และการคาดการณ์ไปต่าง ๆ นานาว่าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง เทรนด์จะไปในทิศทางไหน อะไรรอด อะไรไม่รอด ครั้งนี้แวนเชื่อว่าทุกคนได้เรียนรู้เรื่องการปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลง และนอกเหนือจากนั้นแต่ละคนได้เรียนรู้อะไรอีกคงขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล คุณล่ะคะ ได้เผชิญ เรียนรู้ และตกผลึกอะไรบ้าง
Comments