top of page
self-esteem course cover blog page.jpg
พิชาวีร์ เมฆขยาย

3 สิ่งที่ควรทำเพื่อความสุข เมื่อชีวิตมีการเปลี่ยนแปลง


ความสุขเป็นสิ่งที่เราทุกคนปรารถนา เห็นได้จากทุกครั้งที่แวนจัด Workshop และมีกิจกรรมให้คนเลือกค่านิยม (Core Values) ของตัวเอง คนเกือบ 100% จะต้องเลือก "ความสุข" เป็นหนึ่งในสิ่งสำคัญของชีวิต

แต่ความสุขมักไม่ได้อยู่กับเราตลอดไป เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงในชีวิตก็มักพัดพาเอาความสุขของเราหายไป เมื่อความไม่เคยชินเกิดขึ้น หรือสูญเสียสิ่งที่เคยมีไป ความทุกข์ก็มาเยือน นี่เป็นสาเหตุให้ใครหลายคนกลัวการเปลี่ยนแปลง แต่หลายครั้งการเปลี่ยนแปลงไม่ได้น่ากลัวอย่างที่เราคิดเสมอไป ไม่รู้ว่าเราถูกฝังหัวมาจากไหน ตั้งแต่เมื่อไหร่ ที่พอพูดคำว่าการเปลี่ยนแปลงทีไรจะถูกเชื่อมโยงกับความเจ็บปวดไปซะอย่างนั้น ความกลัวเกิดจากการมองอยู่มุมนอก จุดที่ยังไม่ได้ก้าวเข้าไป แล้วมโนเอาเองสารพัดว่าจะต้องเป็นแบบไหน จริงๆ มันคือกลไกการปกป้องตัวเองของอีโก้เพื่อไม่ให้ตัวตนได้รับอันตราย มันจึงขู่สารพัดว่าอย่าออกไปนะเดี๋ยวเธอจะเจ็บตัว แต่ทันทีที่คุณลองพลิกตัวเองก้าวไปอยู่อีกด้าน คุณอาจจะรู้สึกแตกต่างไปจากที่คิดเลยก็ได้ ครั้งที่แวนจะตัดสินใจเปลี่ยนเส้นทางอาชีพครั้งใหญ่ ก็กลัวสารพัดและจินตนาการไปมากมายเช่นกันค่ะ แต่หลังจากที่รู้ว่าต้องก้าวเข้าไปแล้ว วินาทีที่ตัดสินใจไปแล้วนั้น กลับพบว่าความกลัวนั้นหายไป กลายเป็นความตื่นเต้นไปกับความแปลกใหม่แทน

มันไม่ง่ายหรอกนะคะ แต่สนุกชะมัด สิ่งที่คุณต้องทำเมื่อชีวิตมีการเปลี่ยนแปลง คือ

1. ต้องโละเอาความเคยชินเดิมๆ ทิ้งไป (Let go the old one) หากความเคยชินทำให้คุณยึดติด และทำให้คุณต้องเจ็บปวดเมื่อไม่มีสิ่งนั้นแล้ว ดังนั้นจงปล่อยมันไปซะ พูดง่ายแต่ทำยากนะคะ แต่คุณต้องเริ่มต้นจาก Mindset ที่ถูกต้องก่อนว่า หากยังโหยหาชีวิตเดิม ๆ ที่มันไม่มีอีกต่อไปแล้ว คุณก็จะยังออกจากกองทุกข์ตรงนี้ไม่ได้ ดังนั้นต้องหันหน้ามาเผชิญหน้าและยอมรับความจริงว่า ไม่มีสิ่งนั้นอีกต่อไปแล้ว และเตรียมพร้อมสำหรับการสร้างความเคยชินชุดใหม่อีกครั้ง

2. ตื่นเต้นไปกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า (Be present) เมื่ออยู่กับอดีตแล้วโหยหาจนทุกข์ อยู่กับอนาคตก็กังวลจนเครียดไป ดังนั้นการกลับมาอยู่กับปัจจุบันและสนใจสิ่งที่อยู่ตรงหน้าคือทางที่จะเรียกสติและความสงบทางใจกลับคืนมา ทำสิ่งที่อยู่ตรงหน้าให้ดีที่สุด ตั้งใจทำในสิ่งที่ทำอยู่ให้ดีที่สุด แล้วอนาคตจะหาหนทางให้ทุกอย่างเข้าที่เข้าทางให้คุณเอง

ที่สำคัญคือการอยากรู้อยากเห็น (Curiousness) อยากเรียนรู้ จะทำให้คุณตื่นเต้น สนุก เพลิดเพลินกับความแปลกใหม่ และความท้าทายใหม่ ๆ จนคุณค่อย ๆ ปล่อยวางความทุกข์ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงลง

3. เรียนรู้ทักษะชุดใหม่ที่ต้องใช้ (Learn new skills)

ชีวิตใหม่ วิถีใหม่ ย่อมต้องการทักษะชุดใหม่เช่นกัน วิธีการเดิม ๆ ทักษะชุดเดิม อาจใช้ไม่ได้ดี หรือใช้ไม่ได้เลยกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นใหม่ ไม่ใช่แค่ทักษะในการทำอาชีพ แต่รวมถึงทักษะชีวิตด้วย ดังนั้น คุณจึงต้องโฟกัสที่ปัจจุบัน เพื่อเอาพลังงานกลับมาทุ่มให้กับการเรียนรู้สิ่งใหม่ตรงหน้า เกิดเป็นความรู้และความสามารถให้เร็วที่สุด เพื่อให้คุณก้าวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น และเป็นคนที่สามารถเติบโตและได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลง

ที่สำคัญคือวิธีคิดและมุมมองที่มีต่อสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่สำคัญมากเช่นกัน คำว่า "Plan for the worst but hope for the best" เป็นประโยคที่ใช้ได้เสมอ คือ ในทางที่คุณจะต้องวางแผนเพื่อทำให้ตัวเองอยู่รอดให้ได้ ซึ่งก็ต้องมองในแง่ร้ายไว้ก่อน เพื่อดูว่า ในทางที่ร้ายที่สุดจะเกิดอะไรขึ้นและคุณจะวางแผนเตรียมรับมือยังไง และในอีกด้านคือการมีความหวังว่ามันจะไม่ได้เลวร้ายแบบนั้น สุดท้ายแล้วจะมีทางออกหรือทางเลือกที่ดีเกิดขึ้น ซึ่งเป็นการใช้การมองโลกในแง่บวก มาช่วยสร้างสมดุลมุมมองด้วย

>> ดูหนังสือ เป็นเจ้านายของความสุข ที่ช่วยให้คุณฝึกมองโลกในแง่บวกและมีความหวังกับชีวิตมากขึ้น เหมือน Amy Purdy สาวน้อยที่เสียขาทั้งสองข้าง และอวัยวะอีกหลายอย่างให้กับโรคร้าย (>> ดูเรื่องราวของเธอบน TED Talk) เธอยังบอกเลยว่า เพื่อให้ตัวเองก้าวต่อไป เธอต้องเรียนรู้ที่จะ “Let go the old Amy and learn to embrace the new Amy.” ซึ่งเป็นประโยคที่แวนประทับใจมาก และรู้สึกปลดล็อกตัวเองไปในเวลาเดียวกัน ในขณะที่ตัวเองก็กำลังเครียดกับการเปลี่ยนแปลงอยู่

สุดท้าย ชีวิตคนเราก็หนีไม่พ้นการถูก Disruption ดังนั้นแทนที่เราจะพยายามหนีมัน เราก็คงไม่สามารถหนีไปตลอดชีวิตได้ และเหนื่อยอีกต่างหาก สู้หันกลับมามองการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ รอบตัวใหม่ และเรียนรู้ที่จะเคยชินกับการที่ต้องปรับตัวบ่อย ๆ ชีวิตคุณจะเบาขึ้นอีกเยอะ ถึงตอนนั้น พายุการเปลี่ยนแปลงก้อนใหญ่ขนาดไหน คุณก็จะพัฒนาฝีมือให้รับมือได้กับทุกรูปแบบแน่นอน หรืออาจเปรียบชีวิตที่ต้องเผชิญการเปลี่ยนแปลงเป็นเหมือนนั่งอยู่บนรางที่เลื่อนไปตามทางเรื่อยๆ หากคุณมัวแต่หันหลังมองและเสียดายกับวิวข้างทางที่ผ่านไปแล้ว คุณจะไม่ได้สนุกกับวิวข้างหน้า ณ วินาทีปัจจุบันอย่างแน่นอน เคล็ดลับคือ ทำตัวให้เหมือนเด็กค่ะ อย่าคิดเยอะ อย่าฝังใจ อย่ายึดติดกับอะไร แค่ "โอ้โห! ว้าว! " สนุกกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าก็พอ แล้วการเปลี่ยนแปลงจะกลายเป็นแค่กระบวนการธรรมดาที่จะเกิดซ้ำๆ แบบนี้ไปจนคุณลาโลกนี้ไปค่ะ

Comments


bottom of page