คนเจ้าอารมณ์เกินเหตุ กับ คนไร้หัวใจใช้แต่หลักการ มนุษย์สองแบบที่น่าสงสารที่สุด
มนุษย์มีอารมณ์ความรู้สึก รัก กลัว เกลียด ขยะแขยง ตื่นเต้น ตกใจ หลงใหล กังวล ฯลฯ เพื่อความอยู่รอดของชีวิตและเผ่าพันธุ์ แต่ในขณะเดียวกันสมองของมนุษย์ก็มีพัฒนาการในเรื่องของตรรกะและเหตุผล ซึ่งในการทำงานยุคปัจจุบัน หลายๆ อาชีพก็ต้องการความมีตรรกะอย่างที่สุด การทำงานย่อมต้องอาศัยหลักการและเหตุผลในการสร้างสรรค์ผลงาน ยึดข้อเท็จจริง คุยกันบนข้อมูล ไม่มโน ไม่ใช้แต่ความรู้สึกเพราะอาจทำให้เกิดอคติและตัดสินใจทางธุรกิจที่ผิดพลาดได้ แต่หากมีแต่ตรรกะมากเกินไปจะกระทบกับความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน ไม่ว่าวงการไหน องค์กรใหญ่หรือธุรกิจขนาดเล็ก เพราะการอยู่ร่วมกันและทำงานร่วมกัน ทุกคนต่างต้องมีความเห็นอกเห็นใจ การรับฟังกันเพื่อให้เข้าใจอีกฝ่าย และสื่อสารเพื่อรักษาน้ำใจและความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน รวมทั้งในการตัดสินใจเรื่องใหญ่ๆ ของชีวิต หากคนเรายึดแต่ความถูกต้องและหลักการ พวกเขาอาจตัดสินใจผิดพลาด และตัวเลือกที่ว่านั้นอาจนำพาให้พวกเขาใช้ชีวิตแบบไร้สุขไปตลอดกาล ดังนั้นคนเราทุกคนต้องเรียนรู้ที่จะสร้างสมดุลระหว่างอารมณ์และเหตุผลให้ดีในแต่ละบริบท มาลองดูกันว่าหากคุณไม่สามารถสร้างสมดุลได้ มีมากหรือน้อยเกินไป จะเป็นอย่างไร
1. คนอ่อนไหวเกินไป เจ้าอารมณ์เกินเหตุ คุณอาจเคยพบเห็นคนลักษณะนี้รอบๆ ตัวในชีวิตประจำวันและที่ทำงาน พวกเขาจะโดดเด่นในเรื่องอารมณ์ความรู้สึก พวกเขาจะใช้ ‘feeling’ ในการตัดสินใจและตัดสินสิ่งต่างๆ พวกเขาชอบแสดงความคิดเห็นบนความรู้สึก ดังนั้นสิ่งต่างๆ จะถูกหรือผิดขึ้นกับว่า ‘ถูกใจ’ พวกเขาหรือไม่ หากชอบก็คือดี หากไม่ชอบอะไรก็ไม่ดีไปทุกอย่าง คนแบบนี้มัักจะถูกอคติบดบังการมองเห็นโลกตามความเป็นจริงได้มาก เพราะอารมณ์ความรู้สึกของคนเราเอาแน่เอานอนไม่ได้และขึ้นกับปัจจัยหลายอย่างมากเกินไป ดินฟ้าอากาศ ระดับฮอร์โมนในวันนั้น ระยะเวลาการนอน ลักษณะอาหารการกิน สถานการณ์ที่พบเจอในวันนั้น ฯลฯ เหล่านี้จะกระทบต่ออารมณ์ความรู้สึก และคนเหล่านี้จะปล่อยให้ปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้มีอิทธิพลเหนือพวกเขา และปล่อยให้อารมณ์ครอบงำ บงการพฤติกรรมของตัวเอง ข้อดีคือ คนเหล่านี้มักจะมีน้ำใจ ช่วยเหลือโดยไม่มีเงื่อนไข หากรักหรือชอบใคร หรืออยู่ในจังหวะอารมณ์ดี พวกเขาจะเห็นอกเห็นใจ ขี้สงสาร มีชีวิตชีวา มีอารมณ์ขัน ให้อภัยได้ ซึ่งจะช่วยพัฒนาความสัมพันธ์กับคนใกล้ชิดหรือเพื่อนร่วมงานได้ เมื่อมีแรงจูงใจเต็มเปี่ยม พวกเขาจะมีพลังในการทำสิ่งต่างๆ กระตือรือร้นต่อเป้าหมาย ซึ่งจะทำให้ค้นเจอ Passion ของตัวเองได้ง่าย อย่างไรก็ตาม ข้อเสียคือคนเหล่านี้มักจะดราม่า เล่นใหญ่ รักแรงเกลียดแรง อคติ ทิฐิสูง เล่นพรรคเล่นพวก และมักไม่ยอมจบปัญหาหากอารมณ์ยังคุกรุ่นอยู่ พวกเขาอาจมีอารมณ์ชั่ววูบและพลั้งปากพลั้งมือ ทำอะไรที่มักจะเสียใจภายหลัง แต่ไม่ว่าจะกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง พวกเขาก็ยังไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ซักที เมื่อหมดกำลังใจหรือไม่อยากทำ พวกเขาก็อาจจะละทิ้งสิ่งที่ต้องทำไปเฉยๆ โดยไม่รับผิดชอบ จนกว่าจะมีใจอยากทำใหม่
2. คนไร้หัวใจ ใช้แต่หลักการ คนกลุ่มนี้จะมีหลักคิดทุกอย่างบนทฤษฎี หลักการ เหตุผล พวกเขาจะตัดสินใจบนพื้นฐานของความ ‘ถูกต้อง’ เสมอ ดังนั้นหากมีแนวคิดหรือความคิดเห็นไหนที่ดูไม่เมคเซ้นส์ พวกเขาจะเพิกเฉย ไม่เชื่อถือ รวมถึงอาจไม่ฟังคนที่พูดนั้นอีกต่อไป พวกเขามีแนวโน้มจะพูดอย่างตรงไปตรงมา โดยไม่สนใจว่าคนฟังหรือผู้รับสารจะรู้สึกอย่างไร สำหรับพวกเขา ความรู้สึกจับต้องและวัดผลไม่ได้ ซึ่งสิ่งไหนไม่ใช่ตัวเลขหรือเป็นรูปธรรมแล้วพวกเขาจะไม่สนใจ ข้อดีคือ พวกเขามักจะมีอคติน้อยกว่าในเรื่องต่างๆ และมักจะค้นหาข้อเท็จจริงประกอบการพิจารณาเสมอ พวกเขาจะไม่ตีโพยตีพาย กระต่ายตื่นตูมไปก่อน หากยังไม่มีข้อมูลที่ยืนยัน พวกเขาจะคำนึงถึงหลักการและความถูกต้องเสมอ สามารถทำงานแม้จะไม่ชอบหรือไม่สนุกได้เพราะนั่นคือสิ่งที่ต้องทำ รวมทั้งสามารถทำงานบางอย่างที่คนเจ้าอารมณ์เกินไปไม่สามารถทำได้ เช่น การเชิญคนออก การขับเคลื่อนคนในการทำงานยากและกดดัน หรือการตรวจสอบข้อมูล อย่างไรก็ตาม ข้อเสียคือ พวกเขาจะไม่สามารถบอกได้ว่ากำลังรู้สึกอย่างไร ในสมองพวกเขามีแต่ ‘ความคิด’ เมื่อถูกถามว่า “รู้สึกอย่างไร” พวกเขาจะตอบว่า “พวกเขาคิดอย่างไร ” แทน บางครั้งพวกเขาขาดความยืดหยุ่น เห็นอกเห็นใจ ตัดสินใจเรื่องต่างๆ ที่ไม่ถูกใจคน ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาความขัดแย้งและความสัมพันธ์ขึ้นได้ หลายครั้งที่พวกเขาพูดความจริง แต่สิ่งเหล่านั้นอาจเสียดแทงใจคนอื่น ซึ่งคนเหล่านี้จะยึดที่เป้าหมาย ความจริง จนมองข้ามความสัมพันธ์และความรู้สึกของคนรอบตัว จนทำร้ายใจคนอื่นได้โดยไม่รู้ตัว รวมทั้งพวกเขาจะไม่สามารถคิดในมุมมองของคนอื่นได้มากนัก เนื่องจากขาด Empathy และมักคิดว่าทุกคนก็ควรจะคิดแบบเดียวกับที่พวกเขาคิด คนที่ประสบความสำเร็จในการทำภารกิจที่ต้องเกี่ยวข้องกับผู้คนคือคนที่มีความฉลาดทางอารมณ์สูง ซึ่งคนเหล่านั้นสามารถสร้างสมดุลได้อย่างดี ระหว่างเหตุผลและความรู้สึก โดยไม่ปล่อยให้สิ่งใดสิ่งหนึ่งครอบงำพวกเขาจนเกิดความเสียหาย หากคุณใช้อารมณ์และความรู้สึกนำมากเกินไปก็จะหลงลืมตรรกะ ข้อเท็จจริง ถูกผิด ความถูกต้องเหมาะสม และหากคุณใช้เหตุผลและตรรกะตลอดเวลาก็จะเหมือนหุ่นยนต์ที่ไร้หัวใจ คำนึงถึงแต่ความถูกต้องแต่ไม่อาจทำให้ถูกใจคนรอบตัว
ความฉลาดทางอารมณ์เรียนรู้ได้ คอร์สออนไลน์เพื่อให้คนทำงานไปเรียนรู้วิธีพัฒนาทักษะแห่งศตวรรษ 21 ของตัวเองในคอร์ส Emotional Intelligence for Life&Work Success ที่มีทั้งทำแบบทดสอบ ได้รายงานผลเพื่อเห็นทั้งจุดแข็งและจุดอ่อนตัวเอง รวมทั้งจะมีโค้ชติดตามผลคนเรียนแต่ละคนหลังเรียนจบ ดูรายละเอียดได้ที่นี่
Comments