top of page
self-esteem course cover blog page.jpg
พิชาวีร์ เมฆขยาย

10 ข้อคิดในวันที่ปัญหารุมเร้า


ปัญหา, อุปสรรคในชีวิต

ชีวิตคนเราก็ต้องเคยมีบางช่วงที่รู้สึกว่าหลายเรื่องราวน่าปวดหัววิ่งเข้าถล่มเราพร้อม ๆ กัน ก่อนที่คุณจะท้อไปซะก่อน แวนมีข้อคิดที่ตกผลึกได้จากการเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่ว่า มาฝากกันค่ะ เผื่อว่าจะเป็นประโยชน์กับใครบ้างนะคะ 1. เกือบทุกคนต้องเคยมีวันหรือช่วงที่ปัญหาหลาย ๆ อย่างดาหน้าเข้ามาพร้อมกันอยู่แล้ว หากเกิดกับคุณบ้าง บอกกับตัวเองไปเลยว่า ถึงตาของฉันบ้างแล้วสินะ แล้วมันจะทำให้คุณยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้นได้ ไม่ตีโพยตีพาย แต่มีการตระหนักรู้ นำไปสู่การมีสติที่จะรับมือด้วยใจสงบมากขึ้น 2. One problem at a time ไม่ว่าปัญหาจะถาโถมเข้ามาพร้อมกันเป็นสิบเป็นร้อยเป็นพันปัญหา ทุกอย่างดูยุ่งเหยิงไปหมด แต่คำแนะนำก็คือ จับทุกอันมาเข้าแถวเรียงลำดับตามความฉุกเฉิน แล้วแก้ทีละปัญหา เมื่อปัญหาไหนเคลียร์ได้แล้ว กำลังใจคุณก็จะเริ่มมีมากขึ้น เพื่อไปแก้ปัญหาอื่น ๆ ต่อไป 3. เวลาเจอทุกอย่างรุมเร้า สมองตื้อมาก ๆ จะยิ่งคิดอะไรไม่ออก หากยังไม่มีเรื่องไหนที่คอขาดบาดตายจนต้องทำเดี๋ยวนั้น ลองพักเบรกดูซัก 5 - 60 นาที ไปอาบน้ำสระผม เดินเล่น เล่นกับหมาแมว ออกกำลังกาย เต้น เล่น หรือกิจกรรมที่ช่วยให้คุณผ่อนคลาย เมื่อสมองปลอดโปร่ง คุณอาจจะเจอวิธีแก้มาแบบง่าย ๆ ปิ๊งแว้บมาตอนที่คุณเล่นสนุกหรือผ่อนคลายจริง ๆ 4. ไม่ใช่ทุกปัญหาจะคลี่คลายด้วยดี ปราศจากความเสียหายไปซะทั้งหมด บางเรื่องคุณอาจต้องยอมแลกหรือยอมสูญเสียบางอย่างไป แต่คิดซะว่า อย่างน้อยคุณก็สามารถหลุดจากสถานการณ์บางเรื่องออกมาได้ หรือจบลงด้วยดี โดยเสียหายน้อยที่สุดแล้ว สรุปแล้วคือคุณต้องทำใจด้วยว่า บางครั้งคุณอาจต้องแลกกับบางอย่างเช่นกัน 5. บางปัญหาอาจไม่จำเป็นต้องแก้อะไรเลย เพียงแค่รอเวลา แล้วปัญหานั้นก็จะคลี่คลายด้วยตัวมันเอง ก็มี ดังนั้นอย่าเพิ่งร้อนรนจนขาดสติ ดึงจังหวะช้าบ้างในบางเรื่อง บางครั้งคุณแทบไม่ต้องเหนื่อยอะไรเลย 6. หากอารมณ์มันท่วมท้นมาก ๆ คุณลองหาพื้นที่ให้ได้ตะโกน กรี๊ด หรือร้องไห้ออกมาบ้างก็ได้ เพราะสิ่งเหล่านี้คือการพยายามระบายอารมณ์ความรู้สึกออกไป เพื่อสร้างความสมดุลขึ้นในเวลาต่อมา คุณไม่จำเป็นต้องรักษาภาพ ทำตัวเองเหมือนแข็งแกร่งตลอดเวลา ปล่อยให้ตัวเองได้อ่อนไหวไปกับความรู้สึกบ้าง เพราะคุณก็คนคนหนึ่งที่มีความรู้สึกเช่นกัน 7. การขอความช่วยเหลือไม่ใช่เรื่องเลวร้ายหรืออ่อนแอ หากมันเกินกำลังก็ไม่ผิดที่คุณจะมองหาใครซักคนที่มีความสามารถจะช่วยคุณได้ บางครั้งปากหนักเกินไป หรือคิดเก็บไว้คนเดียวมากไป ซักวันจะระเบิดออกมาจนไม่เหลืออะไรซะก่อน 8. การคิดถึง Worst case scenario (จินตนาการถึงขั้นที่มันจะเลวร้ายสุด ๆ) จะช่วยให้คุณลดความกังวลและความกลัวลงไปได้มาก เพราะจากเดิมคุณอาจมักจะมองปัญหาในด้านที่รุนแรง ทั้งที่จริงหากเกิดในกรณีเลวร้ายสุด ๆ ส่วนใหญ่คุณก็มักจะมีทางออก มีแผนสำรอง หรือยอมรับมันได้ในที่สุด 9. อะไรที่ฆ่าคุณไม่ตาย มันจะทำให้คุณแกร่งขึ้น หากคุณพาตัวเองก้าวข้ามผ่านช่วงเวลาอันหนักหน่วงดังพายุโหมนี้ไปได้ คุณจะเกิดการเรียนรู้ ทักษะเกิด ความสามารถยกระดับ และสภาพจิตใจแข็งแกร่งขึ้น ไปอีก 10. อย่าคิดว่าชีวิตฉันจบสิ้นแล้ว ไม่เหลืออะไรอีกแล้ว เพราะทุกอย่างที่กำลังเกิดขึ้นกับคุณ มันมักจะมีสถานะชั่วคราว คืออยู่ซักพักแล้วมันจะก็เปลี่ยนรูป หรือหายไป ชีวิตคนเรามันก็เหมือนคลื่นที่มีขึ้นมีลงตลอด สุขซักพักเดี๋ยวก็มีเรื่องให้เครียด ทุกข์ซักพักเดี๋ยวก็จะบรรเทาและหายไปเอง นี่คือสิ่งที่คนเราเผชิญมาตลอดชีวิต เรียนรู้ที่จะอยู่กับมัน เรียนรู้ที่จะมีความหวังกับชีวิต แล้วคุณจะไม่ถูกน็อค ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่กำลังรู้สึกว่าตัวเองเผชิญหน้ากับปัญหาที่รุมเร้าได้มีสติ มีปัญญา และมีพลังที่จะรับมือกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น และขอให้รู้ไว้ว่า คุณไม่ได้อยู่ลำพัง แต่มีเพื่อนอีกมากมายที่อาจกำลังรู้สึกแบบเดียวกัน เอาใจช่วยค่ะ

Comments


bottom of page